ศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บ หลังจากคลอดบุตรแบบธรรมชาติ
ปัญหากวนใจสำหรับคุณแม่หลังคลอดหลายคน คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ฝีเย็บ ซึ่งรอยนี้จะเกิดจากกรณีที่คุณแม่คลอดบุตรโดยวิธีธรรมชาติ แพทย์จะทำการเปิดแผลเพิ่มเติมเพื่อให้คุณแม่สามารถคลอดบุตรได้ง่าย และ สะดวกมากขึ้นครับอย่างที่หลายคนทราบกันดีครับว่า นอกจากนี้การที่ช่องคลอดฉีกขาดยังมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ และ การมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าฝีเย็บจะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดลับของคุณแม่ แต่กลับส่งผลในเรื่องของจิตใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความไม่มั่นใจ ความกังวลใจ ดังนั้นการศัลยกรรมตกแต่งจุดซ่อนเร้นบริเวณปากช่องคลอดหรือ ฝีเย็บ จึงนับว่าเป็นวิธีการแก้ไขตกแต่งบริวณจุดซ่อนเร้นของคุณแม่ได้ เนื่องจากช่วยตกแต่งผิวหนัง และกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด เพื่อให้เกิดความสวยงาม แถมยังช่วยให้บริเวณปากช่องคลอดกรับขึ้นอีกด้วยครับ ส่วนใหญ่แล้วการตกแต่งฝีเย็บนิยมทำร่วมกับ การ ศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอด ครับ
ตกแต่งปากช่องคลอด ( ฝีเย็บ ) คืออะไรมาทำความรู้จักกัน
การศัลยกรรมตกแต่งปากช่องคลอดหรือฝีเย็บ (perineorrhaphy) คือ การแก้ไขปัญหารอยย่นหรือการฉีกขาดบริเวณปากช่องคลอด ที่เกิดได้จากการคลอดบุตรแบบธรรมชาติครับนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยงามแล้วยังส่งผลในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยครับ โดยคนไข้ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มา หรือคลอดบุตรมาจะทำให้ปากช่องคลอดเปิดกว้างกว่าปกติครับ ทำให้ฝีเย็บสามารถฉีกขาดได้จนเกิดเป็นผิวหนังส่วนเกิน หรือรอยย่นบริเวณปากช่องคลอดนั่นเองครับ
ซึ่งการผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บมีจุดประสงค์ เพื่อให้ปากช่องคลอดหรือฝีเย็บดูสวยงาม และ กระชับมากขึ้นครับ ส่วนใหญ่แพทย์จึงทำการผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรมฝีเย็บร่วมกับปากช่องคลอดจึงช่วยส่งผลให้การมีเพศสัมพันธ์ดีกว่าเดิมได้อีกด้วยครับ
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริเวณปากช่องคลอดหรือฝีเย็บฉีกขาด ส่วนมากเกิดได้จากการผ่าตัดเพื่อขยายช่องคลอด ในขณะคลอดบุตรครับ ทำให้ปากช่องคลอดดูกว้างมากเพื่อให้สามารถคลอดบุตรได้สะดวกครับ แต่ก็ยังมีกรณีที่คนไข้เกิดอุบัติเหตุมาหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงครับ นอกจากนี้ยังสามารถเกิดได้ตั้งแต่กำเนิดรวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้นครับ
อะไรคือสาเหตุที่ควรทำ
จริง ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้คนไข้ต้องทำการศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บมีอยู่หลายปัจจัยนะครับ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดได้ตั้งแต่กำเนิด จนถึงพบเจออุบัติเหตุที่ไม่ทันตั้งตัว จึงส่งผลให้บริเวณปากช่องคลอดหรือฝีเย็บฉีกขาดได้นั่นเองครับ โดยมีสาเหตุอะไรที่ควรเฝ้าระวังกันบ้างไปดูได้เลยครับ
- เกิดได้จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ไม่ทะนุถนอม จึงเป็นสาเหตุใกล้ตัวที่ทำให้ช่องคลอดฉีกขาดได้ง่ายครับ กรณีสามารทำการตกแต่งได้ครับ
- เกิดจากการคลอดบุตรด้วยวิธีแบบธรรมชาติ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยอย่างมากในคนไข้ที่ตั้งครรภ์ครับ เนื่องจากการคลอดบุตรต้องทำการขยายช่องคลอดมากกว่าปกตินั่นเองครับ จึงสามารถทำได้หลังจากทำคลอดเลยครับ
- เกิดได้จากอุบัติเหตุ เช่น รถยนต์หรือจักรยานยนต์ อาจพบได้เป็นส่วนน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นอันตรายใกล้ตัวได้เช่นกันครับ คนไข้สามารถทำได้ครับ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสิ่งแรกที่ไม่สามารถเลี่ยงได้เลยครับ เพราะสามารถส่งผลให้กับจุดซ่อนเร้นได้อย่างแน่นอนครับ แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำได้นะครับ เพื่อให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และลดเลือนรอยย่นบริเวณฝีเย็บนั่นเองครับ
สาเหตุทั้งหมดที่ผมกล่าวมาสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการตกแต่งด้นะครับ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือติดเชื้อได้ง่าย ๆ นั่นเองครับ
ใครบ้างที่เหมาะแก้ไขปัญหาฝีเย็บ
ใครที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาฝีเย็บบ้าง จริง ๆ แล้วข้อมูลส่วนนี้มีไม่เยอะมากเท่าไหร่ครับ เนื่องจากการทำศัลยกรรมฝีเย็บนั้นเหมาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น โดยมีคนไข้กลุ่มไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาฝีเย็บได้บ้าง ไปลองดูกันครับ
- คนไข้ที่ผ่านการคลอดบุตรแบบธรรมชาติ สามารถทำได้ครับ เนื่องจากในขั้นตอนการผ่าตัดคลอดบุตรต้องมีการขยายบริเวณช่องคลอดซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดฉีกขาดได้นั่นเองครับ
- คนไข้ท่านใดที่รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณจุดซ่อนเร้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก อาจเกิดจากช่องคลอดฉีกขาดได้นะครับ จึงสามารถทำศัลยกรรมตกแต่งได้ครับเพื่อให้คงสภาพเดิมและลดอาการเจ็บตอนมีเพศสัมพันธ์นั่นเองครับ
- คนไข้ที่มีอายุสูงหรือกำลังเข้าวัยทอง จะมีรอยย่นบริเวณจุดซ่อนเร้น สามารถทำศัลยกรรมตกแต่งได้ครับ เพื่อให้ผิวบริเวณปากช่องคลอดดูเต่งตึง และ ลดความหย่อนยานลงนั่นเองครับ
ดังที่ทุกคนได้อ่านในบทนี้ จะเห็นได้ว่าความคนไข้ที่เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาฝีเย็บจะมีจำนวนน้อย เพราะส่วนใหญ่จะเกิดจากสาเหตุสำคัญหรือมีปัจจัยอื่น ๆ ที่กระทบบริเวณจุดซ่อนเร้น จึงทำให้การทำศัลยกรรมตกแต่งนั้นเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นครับ
ศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บที่สถานพยาบาลไหนดี
สำหรับคนไข้ที่กำลังประสบปัญหาฝีเย็บไม่สวย หรือต้องการอยากศัลยกรรมตกแต่งบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่ยังคงมีความลังเลว่าควรทำศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บที่สถาพยาบาลไหนดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมีวิธีการเลือกจากอะไร ดูอย่างไรว่าปลอดภัย คนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมอย่างละเอียดรอบครอบนะครับ อย่าปล่อยให้การศัลยกรรมเป็นเรื่องของโชคชะตาเพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อาจได้รับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้สูญเสียทั้งเงินทอง และเวลา
ดังนั้นในบทความนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกสถานพยาบาลมาฝากคนไข้ทุกท่านครับ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำ โดยมีเรื่องไหนที่คนไข้ต้องรู้บ้างมาดูกันครับ
- สถานพยาบาลต้องน่าเชื่อถือ
สถานพยาบาลถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ในการตัดสินใจของคนไข้เลยครับ ว่าเหมาะที่จะเข้าใช้บริการหรือไม่ โดยสถานพยาบาลดังกล่าวต้องมีใบประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงภายใน และ ภายนอกสถานพยาบาลต้องมีความสะอาดถูกหลักอนามัย จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกนั่นเองครับ
- แพทย์เฉพาะทาง
ทุกหัตถการต้องสามารถตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ได้ รวมถึงแพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ และ ควรเป็นสูตินรีแพทย์ในการดูแลรักษาคนไข้นะครับเพราะจะช่วยประเมินได้อย่างแม่นยำถูกต้องรวมถึงเข้าใจลักษณะอวัยวะเพศได้ดีกว่าแพทย์แขนงอื่นๆครับ เนื่องจากบริเวณจุดซ่อนเร้นมีความเปราะบางที่สามารถเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายครับ
- เครื่องมือแพทย์ต้องมีคุณภาพ
เครื่องมือทางการแพทย์ควรมีความทันสมัย สะอาด ปลอดภัย และต้องพร้อมใช้งานตลอด 24 ชม แม้ในกรณีฉุกเฉินก็ตามครับ รวมถึงเครื่องมือแพทย์ควรมีมาตรฐาน อย.ทุกชนิดเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกท่านนั่นเองครับ
ดังนั้นการทำศัลยกรรมฝีเย็บเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และ เป็นที่พึงพอใจของคนไข้ตั้งแต่ครั้งแรก การตัดสินใจเลือกสถานพยาบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากครับ
โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเป็นชั้นนำที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ได้รับมาตรฐาน พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อ นำทีมโดยแพทย์เฉพาะทางและให้คำปรึกษาปัญหาจุดซ่อนเร้นแบบครบวงจร การันตีฝีมือด้วยเคสรีวิวจากลูกค้าจริงมากมาย คนไข้สามารถมั่นใจเลยว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอนครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งปากช่องคลอด(ฝีเย็บ)
สำหรับคนไข้ที่ใกล้ถึงกำหนดนัดผ่าตัด ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่การรอระยะเวลาให้ถึงวันนัดหมายนะครับ แต่ต้องมีวิธีในการเตรียมตัวอยู่ด้วย เพื่อให้เกิดความพร้อม รวมไปถึงการปรับสภาพร่างกายให้แข็งแรง และ สภาพจิตใจก็ต้องพร้อมไม่ตื่นเต้นจนเกินไปอีกด้วย ต้องขอแจ้งให้ทราบตามตรงก่อนเลยนะครับว่า การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยครับ เพราะหากคนไข้ เตรียมตัวดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดโอกาสความผิดพลาด หรือ อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันในห้องผ่าตัดลงได้อย่างมากเลยครับ อ้อ แถมยังช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรคซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการที่มีเลือดของคนไข้ไหลออกมามากกว่าปกติในขณะผ่าตัดอีกด้วยครับ
โดยการเตรียมตัวจะเกิดขึ้นก่อนเข้ารับการผ่าตัดเป็นข้อปฏิบัติง่าย ๆ ที่แพทย์แนะนำให้ทำตามนั่นเองครับ ซึ่งมีวิธีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บอย่างไรบ้างไปดูกันครับ
- คนไข้ควรงดรับประทานยา วิตามินรวมถึงอาหารเสริมทุกชนิด ๆ เนื่องจากสามารถส่งผลให้เลือดเกิดการแข็งตัวได้ครับ (ยกเว้นกรณีที่มียาประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ว่าสามารถทานได้ปกติหรือไม่นะครับ)
- คนไข้ควรงดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด เนื่องจากสารในบุหรี่ และ แอลกอฮอล์สามารถทำให้แผลหลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งหายได้ช้าลงนั่นเองครับ
- คนไข้ควรเช็กว่าประจำเดือนมา หรือหมดวันไหน เนื่องจากในการผ่าตัดจะไม่อนุญาตให้คนไข้ที่เป็นประจำเดือนเข้ารับการผ่าตัดนะครับ เพราะจะส่งผลเสียได้ในหลาย ๆ ด้านเช่น ความไม่สะอาด เลือดไหลไม่หยุดขณะผ่าตัดรวมถึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ค่อนข้างง่ายครับ
- คนไข้ควรงดน้ำ และ อาหารทุกชนิดก่อนเข้าห้องผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชม. เนื่องจากการผ่าตัดจะต้องวางยาสลบอาจทำให้คนไข้สำลักได้นั่นเองครับ
- คนไข้ควรเตรียมกางเกงในหลวม ๆ สำหรับใส่หลังผ่าตัดจะดีกว่ากางเกงในที่รัดรูป เพราะอาจทำให้เจ็บบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดจึงถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับร่างกาย และ จิตใจครับ ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ขั้นตอนการผ่าตัดผ่านไปได้อย่างสะดวก และ ปลอดภัยนั่นเองครับ
ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บมีอะไรบ้าง
คำถามที่สาว ๆ หลายคนมักสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บนั้นน่ากลัวไหม หายได้ไวหรือเปล่า นับว่าเป็นคำถามที่พบได้บ่อยในคนไข้ที่มีความกังวลเรื่องของการผ่าตัดครับ ซึ่งสำหรับในหัวข้อนี้ ผมจะขออธิบายถึงขั้นตอนในการผ่าตัดว่ามีอะไรบ้างที่สำคัญ และ แพทย์จะใช้เทคนิคอะไรในการรักษาได้ตามนี้เลยครับ
- ในการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีโดยเริ่มจากการฉีดยานอนหลับ หรือวางยาสลบคนไข้ทางหลอดเลือดดำ เมื่อยาสลบออกฤทธิ์แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณจุดซ่อนเร้น
- หลังจากยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะใช้เทคนิคเลาะเอาผนังช่องคลอดและผิวหนังส่วนเกินบริเวณช่องคลอดทิ้งจากนั้นแพทย์จะนำแผลผ่าตัดทั้งสองข้างมาชิดกันใหม่แล้วทำการเย็บแผลให้ติดกันด้วยไหมละลายครับ โดยเย็บประมาณ2-3ชั้นแล้วแต่ความเหมาะสมเพื่อป้องกันการแยกของแผลผ่าตัดนั่นเองครับ
- หลังเสร็จจากขั้นตอนการผ่าตัดแพทย์จะทำการสังเกตอาการคนไข้ประมาณ 1-2 ชม.ครับ หากคนไข้ไม่มีอาการผิดปกติเช่น พบว่าไม่มีเลือดออก หรือปัสสาวะได้ตามปกติ แพทย์จะอนุญาตให้คนไข้กลับบ้านได้เลยครับ
ดังที่ผมได้กล่าวมาขั้นตอนในการผ่าตัดจึงมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนครับ แต่แพทย์จะให้ความใส่ใจในเรื่องการดูแลรักษาเป็นพิเศษมากกว่าครับ เนื่องจากระหว่างพักรักษาร่างกายคนไข้สามารถติดเชื้อได้ทุกเวลาหากปฏิบัติไม่ถูกวิธีโดยในหัวข้อถัดไปผมจะอธิบายรายละเอียดที่สำคัญในการดูแลหลังผ่าตัดให้คนไข้ฟังนะครับเชิญติดตามกันต่อได้เลยครับ
การดูแลรักษาหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง ฝีเย็บ ทำอย่างไร
หลังจากคนไข้เข้ารับการผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บ มาได้ด้วยดีแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และ สม่ำเสมอคือการดูแลรักษานั่นเองครับ ต้องขอบอกก่อนเลยนะครับ ว่า การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เนื่องจากจะช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้นลง แถมยังลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจตามมาอีกด้วยครับ โดยมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรให้แผลหายได้ไว และ ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานถ้าพร้อมแล้วไปชมกันได้เลยครับ
- แพทย์จะแนะนำให้คนไข้หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างหรือพยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดประมาณ 2-3 วันหลังผ่าตัดครับ เพื่อป้องกันแผลบริเวณที่ผ่าตัดฉีกขาดนั่นเองครับ
- แพทย์แนะนำให้คนไข้ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดทุกครั้งหลังปัสสาวะหรือขับถ่าย โดยการใช้ทิชชูเปียก และ ซับด้วยผ้าเบาๆจนแห้งสนิทนะครับ เพื่อลดความอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อนั่นเองครับ
- แพทย์แนะนำให้งดของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ การสูบบุหรี่อย่างน้อย 15 วันครับ เนื่องจากของที่กล่าวมามีสารหลายชนิดที่ส่งผลต่อแผลผ่าตัดอาจทำให้ติดเชื้อหรือแผลหายได้ช้าลงครับ
- แพทย์แนะนำให้งดออกกำลังกายอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ ต่อให้การออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงก็ตามแต่ถ้าแผลจากการผ่าตัดยังไม่แห้งสนิทหรือหายดีก็สามารถทำให้แผลฉีกขาดได้ง่ายนะครับ
- แพทย์แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 8-12 สัปดาห์ จะเห็นว่าไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้นานเกือบหนึ่งปีดังนั้นคนไข้จึงควรคุย และ ปรึกษากับคนรักให้ชัดเจนก่อนทำนะครับเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ได้ในภายหลังนั่นเองครับ
- แพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ เช่นยกของหนัก หรือการเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์เพราะจะส่งผลให้แผลอักเสบได้ง่ายจนเกินการฉีกขาดนั่นเองครับ
- ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องจนกว่าจะหายดีครับ โดยยาที่แพทย์จ่ายให้อย่างเช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด และ ยาระบายเพื่อป้องกันอาการท้องผูกรวมถึงเพื่อให้แผลหายได้ไวเป็นปกติครับ
การดูแลรักษาหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งฝีเย็บจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรใส่ใจและปฏิบัติตามแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะทุก ๆ การกระทำล้วนเป็นผลลัพธ์ต่อตัวคนไข้เองนะครับ