ศัลยกรรมรีแพร์ (เคล็ดลับ) กระชับความสัมพันธ์
การใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคนรักนอกจากเรื่องความรักความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว ยังมีเรื่องของความสุขทางเพศที่สำคัญเช่นกันครับ แต่พบว่าหลายคู่ประสบปัญหาจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีสาเหตุมาจากจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ ไม่กระชับ หรือช่องคลอดหลวม อาจทำให้ส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศ และภาวะขาดความมั่นใจของสาว ๆ ส่วนกรณีที่สาว ๆ รู้ตัวเองดีว่ามีปัญหาช่องคลอดหลวมแต่ไม่กล้าเปิดเผยเพราะเขินอายหรือหนุ่ม ๆ ที่ไม่กล้าพูดตรง ๆ เพราะกลัวสาว ๆ เสียใจเนื่องจากอาจทำให้เสียความมั่นใจ หากปล่อยความสัมพันธ์แบบนี้ทิ้งไว้ อาจบานปลายกลายเป็นปัญหาครอบครัวได้ในไม่ช้าครับ การทำศัลยกรรม รีแพร์ จึงเป็นที่นิยม และคนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจ เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดช่วยส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ของคู่รักมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ
มาทำความรู้จักกันว่ารีแพร์ คืออะไร
รีแพร์ (Repair) หรือการซ่อมแซมคือการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในจุดซ่อนเร้นให้กระชับขึ้นครับ เพื่อปรับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดให้เล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิมครับ
โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดตกแต่งแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อด้านในร่วมกับผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดให้กลับมามีความฟิต เฟิร์มหรือกระชับเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ หากสาวๆท่านใดสนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
ถึงอย่างไรความสำคัญของปัญหาช่องคลอดหลวม หรือหย่อนยานอาจไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริงครับ เพราะมีสาว ๆ บางส่วนที่รู้สึกเขินอาย และไม่กล้าเปิดเผยจุดซ่อนเร้นในขั้นตอนการรักษา จึงทำให้กำลังใจหรือภาวะทางจิตใจของสาวๆถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลยครับ ฉะนั้นเพื่อเลี่ยงผลกระทบที่จะตามมาในอนาคตการเปลี่ยนแปลงที่ควรทำเป็นอันดับแรกอาจเริ่มต้นจากความกล้าก่อนนะครับ เพื่อลดความเสี่ยงในความสัมพันธ์ของคู่รักสาวๆทุกคนต้องมั่นใจไว้นะครับ
สาเหตุอะไรที่ควรทำเพื่อฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น
การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่สาว ๆ ให้ความนิยมในปัจจุบันเนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวมหรือหย่อนยานให้กลับมากระชับได้อีกครั้งครับ โดยมีสาเหตุสำคัญเกิดจากอะไรได้บ้างไปดูกันครับ
- ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อยหรือหย่อนยานครับ
- การมีเพศสัมพันธ์มานานหรือใช้ระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์นานๆครับ
- การคลอดบุตรครั้งแรกหรือคลอดบุตรมาหลายคนครับ
- ขั้นตอนการทำคลอดบุตรไม่ถูกวิธีครับ
- มีอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยทองครับ
- ภาวะอ้วนหรือผอมมากจนเกินไปครับ
- สาวๆที่ออกแรงเกร็งบริเวณช่องท้องเป็นประจำ เช่น การยกของหนักครับ
- เกิดจากโรคประจำตัวอย่างเช่น ไอเรื้อรัง,ท้องผูกเรื้อรังครับ
ซึ่งสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ หรือ มินิรีแพร์ได้ครับ เพื่อยกระดับช่วยให้ช่องคลอดที่หลวมกลับมากระชับเพิ่มความมั่นใจให้สาวๆได้นั่นเองครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ รีแพร์
การทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์สามารถช่วยกระชับช่องคลอดได้ดี และยังแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในจุดซ่อนเร้นได้อีกด้วยครับ แต่ประเด็นหลัก ๆ คือเราจะทราบได้อย่างไรว่าใครที่เหมาะสำหรับการทำรีแพร์กันแน่ ถ้าสาว ๆ คนไหนที่รู้สึกเริ่มไม่มั่นใจในจุดซ่อนเร้นของตัวเอง ผมจะพามาดูว่าใครบ้างที่เข้าข่ายการทำรีแพร์ได้ดังนี้เลยครับ
- คุณแแม่ที่เคยผ่านการคลอดบุตรครั้งแรกหรือมีบุตรหลายคน สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับคนรักแล้วมีลมเข้าออกทางช่องคลอด ส่งผลให้ไม่ถึงจุดสุดยอดหรือทำให้เสียจังหวะ สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่มีอาการเจ็บบริเวณจุดซ่อนเร้นบริเวณเลเบีย สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่มีภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนยานหรือมีอาการปวดท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์ สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่เส้นผ่าศูนย์กลางช่องคลอดมีการขยายใหญ่ขึ้นหรือมีช่องคลอดกว้างกว่าปกติ เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์มาอย่างหนัก และมีอายุที่เพิ่มขึ้น สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่มีปัญหากลั้นปัสสาวะหรือกลั้นผายลมไม่อยู่ ขณะทำกิจกรรมเช่น การกระโดด วิ่งหรือเดินรวมถึงอาจมีอาการไอจามบ่อยครั้ง และท้องผูกเป็นประจำ สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่มีภาวะมดลูกหย่อนยานจนเกิดเป็นแผลปากมดลูกเรื้อรัง สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
- สาว ๆ ที่อยู่ในสภาวะหลังคลอดที่ต้องพักฟื้นร่างกายให้กลับมาสู่สภาพร่างกายปกติ สามารถเข้าทำศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ได้ครับ
สาว ๆ จะเห็นได้ว่าการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์นั้นเกิดได้จากทั้งการมีเพศสัมพันธ์ การคลอดบุตร และโรคประจำตัว โดยสามารถเข้ารับปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการรักษาให้ช่องคลอดกลับมากระชับได้อีกครั้งนั่นเองครับ
รีแพร์ ที่ไหนดีมีปัจจัยอะไรบ้างที่สำคัญ
ต่อให้การผ่าตัดศัลยกรรมรีแพร์จะเป็นทางออกของปัญหาช่องคลอดหลวมหรือมีภาวะหย่อนยาน แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่สาว ๆ ควรรู้เช่น การเลือกสถานพยาบาลในการเข้ารับการรักษาเป็นต้น เพราะปัจจุบันมีสถานพยาบาลอยู่หลายแห่งที่สามารถรักษาได้ แต่จะเลือก รีแพร์ที่ไหนดี และควรตัดสินใจจากปัจจัยอะไรถ้าพร้อมแล้วไปติดตามดูในบทความนี้ได้เลยครับ
สถานพยาบาลต้องมีมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือ
สถานพยาบาลต้องได้รับใบอนุญาตสำหรับประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมแสดงหลักฐานให้คนไข้ที่มาใช้บริการได้เห็น รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแพทย์ พนักงาน และรีวิวจากคนไข้ที่มาใช้บริการจริง อีกทั้งสถานพยาบาลควรมีช่องทางการติดต่ออย่างละเอียดถี่ถ้วนสามารถติดต่อได้อย่างสะดวก และติดต่อได้จริงครับ
แพทย์เฉพาะทาง และมีประสบการณ์เฉพาะด้าน
แพทย์จำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพ และควรจบหลักสูตรสูตินรีเวชเพราะสามารถวางแผนประเมินลักษณะของจุดซ่อนเร้นได้อย่างละเอียดตามปัญหาของคนไข้ รวมถึงต้องได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแก่คนไข้จึงถือว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมครับ
เครื่องมือแพทย์มีความทันสมัย
ถ้าคนไข้สนใจในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ เครื่องมือต้องมีความสะอาดทันสมัย และผ่านการฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนให้คนไข้เข้ารับการรักษานะครับ รวมไปถึงต้องมีอุปกรณ์ที่รับรองความปลอดภัยเผื่อเกิดข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิด และเครื่องมือทุกชนิดควรต้องได้รับรองมาตรฐาน อย.ครับ
ซึ่งทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชนั้นเป็นสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และมีใบอนุญาตประกอบกิจการสามารถตรวจสอบได้ครับ รวมถึงทีมแพทย์ยังจบหลักสูตรสูตินรีแพทย์ มีประสบการณ์ เฉพาะด้านทุกหัตถการครับ ส่วนเรื่องเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ได้ใบรับรองมาตรฐานอย. ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉะนั้นคนไข้จึงไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยเลยครับ แถมยังสามารถสร้างความพึงพอใจหลังผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ให้กับคนไข้ได้อย่างแน่นอนครับ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาจุดซ่อนเร้น
สำหรับคนไข้ที่เข้ารับการรักษาจุดซ่อนเร้นด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ ก็ต้องรู้ถึงขั้นตอนในการเตรียมก่อนผ่าตัดนะครับ เพื่อทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อม ซึ่งมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างดูได้ตามหัวข้อดังนี้เลยครับ
- สถานพยาบาลจะแนะนำให้สาว ๆ ตรวจเช็คสุขภาพหรือตรวจว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดนะครับ เพราะถ้าหากเป็นมะเร็งปากมดลูกจะไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์จุดซ่อนเร้นได้ครับ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อตัวสาว ๆ นั่นเองครับ
- งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวดหรือคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงวิตามิน และอาหารเสริมทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดนะครับ เนื่องจากยาบางชนิดสามารถส่งผลกระทบได้ระหว่างผ่าตัดครับ
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาประจำตัว รวมถึงประวัติการผ่าตัด และประวัติการแพ้ยาครับ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนการผ่าตัดนั่นเองครับ
- งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และควรทำอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากผ่าตัดนะครับ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อระหว่างผ่าตัด และภายหลังผ่าตัดครับ
- สาว ๆ ควรเข้ารับการผ่าตัดช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือนประมาณ 1 สัปดาห์หรือนับหน้า 7 หลัง 7 เพื่อลดการอักเสบ และการปนเปื้อนของเลือดระหว่างผ่าตัดได้ครับ
- สาว ๆ ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ ไม่หลวมหรือคับเกินไปครับ ไม่ควรใส่ชุดรัดรูปหลังผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการเสียดสีจนเจ็บได้ครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกก่อนเข้าสู่หัวข้อถัดไปคือขั้นตอนการผ่าตัดครับ เพื่อให้คนไข้ที่เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลผ่านการผ่าตัดไปได้อย่างราบรื่น และปลอดภัยแนะนำให้ปฏิบัติตามหัวข้อดังกล่าวด้วยนะครับ
ขั้นตอนอะไรบ้างที่ใช้ในการผ่าตัด
จริง ๆ แล้วขั้นตอนในการทำรีแพร์ยังมีหัตถการอื่นที่สามารถช่วยให้กระชับช่องคลอดได้เช่นกันนะครับ โดยถูกแบ่งเป็น 3 หัตถการคือรีแพร์ด้วยการใช้เลเซอร์ รีแพร์ด้วยการใช้ฟิลเลอร์ และรีแพร์ด้วยการผ่าตัด ที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนั่นเองครับ แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดถือเป็นวิธีที่มีความนิยมค่อนข้างสูง ผมจึงขอนำเสนอขั้นตอนในการผ่าตัดในหัวข้อบทความนี้นะครับ ซึ่งมีขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกันครับ
แนวทางการผ่าตัดรีแพร์อาจแตกต่างกันไปแล้วแต่เทคนิคของสถานพยาบาล แต่กระบวนการพื้นฐานจะมีดังต่อไปนี้ครับ
- ขั้นตอนแรกแพทย์จะทำการวางยาสลบหรือยานอนหลับแบบอ่อน ๆ และยาชาให้กับคนไข้ครับ
- แพทย์จะใช้มีดในการกรีดเปิดผิวที่ผนังช่องคลอด ตั้งแต่บริเวณปากช่องคลอดไปจนถึงช่องคลอดด้านในครับ
- แพทย์จะทำการเลาะแยกผิวช่องคลอดออกจากชั้นเนื้อเยื่อ และทำการเย็บเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพด้วยไหมแบบละลายครับ
- หากพบว่ามีผิวเนื้อเยื่อที่ห้อยย้อยออกมามากเกินไป แพทย์อาจพิจารณาให้ตัดทิ้งแล้วเย็บปิดผิวส่วนนั้นใหม่ครับ
- แพทย์จะทำการส่องกล้องเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย และความเสี่ยงจากการผ่าตัดบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรือท่อไตครับ
- แพทย์อาจใส่ผ้าก๊อซเพื่อดูดซับเลือด และลดโอกาสแผลฟกช้ำหรืออาการบวมหลังผ่าตัดไว้ในช่องคลอด รวมถึงอาจใส่สายสวนปัสสาวะไว้ด้วยประมาณ 3 – 48 ชม. จากนั้นแพทย์จะค่อยนำออกครับ
- แพทย์จะให้คนไข้พักฟื้นที่สถานพยาบาลประมาณ 1 – 2 วัน เพื่อดูสภาพความพร้อมของร่างกายก่อนถึงจะสามารถกลับบ้านได้ตามปกติครับ
เท่านี้สาว ๆ ก็คงทราบถึงขั้นตอนในการทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัดแล้วใช่มั้ยครับ ว่ามีวิธีหรือขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อลดภาวะความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นผมขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัดนะครับ
การดูแลรักษาตัวเองหลังรีแพร์จุดซ่อนเร้น
หลังจากผ่านการรีแพร์ด้วยวิธีการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งจุดซ่อนเร้นแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อตัวสาว ๆ การดูแลรักษาตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญลำดับต่อมาครับ ซึ่งเป็นคำแนะนำจากแพทย์ที่เหมาะสม และควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรไปติดตามกันได้เลยครับ
- สาว ๆ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติครับ แต่ไม่ควรใช้ครีมอาบน้ำหรือสบู่ก้อนรวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นครับ เนื่องจากอาจมีสารตกค้างหลงเหลือซึ่งจะส่งผลทำให้แผลบริเวณผ่าตัดเกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้ครับ
- พยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อย ๆ เช่นการเดินหรือวิ่ง เพื่อป้องกันแผลผ่าตัดอักเสบ และฉีกขาดได้ครับ
- หากมีเลือดออกบริเวณจุดซ่อนเร้นภายใน 2 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด สามารถใส่ผ้าอนามัยเพื่อช่วยซับเลือดได้ครับ
- รับประทานยาที่แพทย์สั่ง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทุกขั้นตอน เนื่องจากแพทย์จะนัดสาว ๆ ให้กลับมาดูอาการหลังจาก 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดครับ
- พยายามหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักประมาณ 1 – 2 เดือนครับเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์อาจส่งผลให้แผลฉีกขาดหรืออักเสบได้รวมไปถึงยังมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้ออีกด้วยครับ
- เลี่ยงอาหารประเภทหมักดองหรืออาหารทะเลประมาณ 1 เดือนนะครับ เพราะจะทำให้แผลบริเวณผ่าตัดหายช้ากว่าปกติครับ
- ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอในทุกวันครับ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพได้รวดเร็วขึ้นหลังผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์มาครับ
- ในกรณีที่มีอาการผิดปกติเช่น มีอาการบวมช้ำหรือปัสสาวะไม่ออกแนะนำให้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ
เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดตามบทความที่กล่าวไว้ ผมจึงอยากให้สาว ๆ ที่เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ทำตามข้อปฏิบัติที่แพทย์แนะนำมาให้ครบถ้วน และสม่ำเสมอทุกวันครับ เพื่อให้แผลหลังผ่าตัดฟื้นตัวได้เร็ว ให้สาว ๆ พร้อมกลับมาใช้งาน และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้อย่างเต็มที่เลยครับ
เทคนิคกระชับไม่ง้อรีแพร์ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
สำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีงบในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์จุดซ่อนเร้นก็อย่าพึ่งหมดหวังไปนะครับ เพราะผมได้หาข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อสาว ๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้เช่นกันครับโดยไม่ต้องถึงมือแพทย์
ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้นนะครับ จึงไม่อยากให้คาดหวังสูงเกินไป หากสาว ๆ อยากให้ออกมาดีที่สุดก็แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางโดยตรงดีกว่าครับ เพื่อให้ผลลัพธ์ตามที่สาว ๆ คาดหวังนั้นเอง ซึ่งเทคนิคที่สามารถช่วยกระชับช่องคลอดโดยไม่ง้อการผ่าตัดมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercise)
การออกกำลังกายบริหารอุ้งเชิงกรานคือการฝึกขมิบช่องคลอดที่ช่วยให้จุดดซ่อนเร้นของสาว ๆ กระชับมากขึ้นครับซึ่งสามารถทำได้ทุกโอกาส ทุกสถานที่ และทุกเวลาไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน โดยเป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ข้อเสียอาจจะทำให้เห็นผลช้า และต้องทำเป็นประจำนั่นเองครับ
การทานอาหารเสริมต่าง ๆ
การรับประทานอาหารเสริมเป็นวิธีที่ยอดฮิตของสาว ๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ง่ายไม่ยุ่งยากไม่ต้องพบแพทย์ สามารถหาซื้อ และดูข้อมูลได้สะดวกตั้งแต่ร้านค้าทั่วไปจนถึงในช่องทางการซื้อในตลาดออนไลน์ ถึงอย่างไร อย. ก็ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความอันตราย เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายเกินไป รวมถึงกระแสโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงหรือเรียกได้ว่าสรรพคุณครอบจักรวาลนั่นเองครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอาหารเสริมใดที่กินแล้วสวย ฟิตหรือช่องคลอดกระชับได้ดั่งใจทันทีครับ และควรศึกษาข้อมูลให้อย่างละเอียดชัดเจนก่อนซื้อมารับประทานทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของสาว ๆ เองนะครับ
การใช้สมุนไพร
การใช้สมุนไพรเป็นอีกกระแสที่ได้รับความนิยมจากสาว ๆ ที่มีชื่อเรียกว่า “หญ้ารีแพร์” เนื่องจากมีความเป็นสมุนไพรจึงมีความปลอดภัย โดยวิธีการใช้หญ้ารีแพร์ให้ได้ผลเร็วที่สุด คือวิธีการรมควันครับ
โดยนำหญ้ารีแพร์ไปตากแดดจากนั้นนำหญ้าประมาณหนึ่งกำมือมาเผาร่วมกับไม้ผุหรือถ่านจนเกิดควัน แล้วนำมาวางใต้เก้าอี้ที่เจาะรูเป็นวงกลมบริเวณจุดซ่อนเร้น ให้สาว ๆ ที่ต้องการให้ช่องคลอดกระชับหรือช่องคลอดหลวมนั่งครับ ซึ่งระหว่างนั้นสามารถขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานควบคู่ไปด้วยได้ครับ เพื่อให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ถึงอย่างไรก็ดูจะเป็นวิธีที่ยุ่งยากไปสักหน่อยนะครับ หากสาว ๆ ที่มีความขี้เกียจหรือไม่มีเวลาการใช้สมุนไพรหญ้ารีแพร์อาจจะไม่เหมาะนะครับ
ฉะนั้นเทคนิคกระชับช่องคลอดโดยไม่ง้อวิธีการผ่าตัดรีแพร์จุดซ่อนเร้น จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ค่อนข้างมีเวลา และทำอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดั่งใจหวังนะครับ เนื่องจากทุกเทคนิคล้วนมีขั้นตอน และวิธีการทำที่ละเอียดนั่นเองครับ
รีแพร์ ระหว่างผ่าตัด vs เลเซอร์ต่างกันอย่างไร
การศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์จุดซ่อนเร้นส่วนใหญ่สาว ๆ จะทำเพื่อให้ช่องคลอดเกิดความกระชับเพิ่มมากขึ้น จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ผ่านการคลอดบุตรหรือใช้งานในการมีเพศสัมพันธ์มากเกินไปครับ โดยศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ที่ได้รับความนิยมสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทครับคือการผ่าตัดกับการใช้เลเซอร์ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนั้นมีความข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรและสาว ๆ เหมาะกับแบบไหนกว่ากันไปดูกันครับ
รีแพร์ด้วยการผ่าตัด
ซึ่งการทำรีแพร์ด้วยวิธีผ่าตัดถูกจัดเป็นการผ่าตัดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่สถานพยาบาลที่สาว ๆ เข้ารับการรักษาครับโดยช่วยปรับสภาพความหย่อนยาน และกระชับช่องคลอดได้กึ่งถาวรเลยทีเดียวครับ
โดยการผ่าตัดรีแพร์จะเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว และอยู่ได้นานเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการทำแบบครั้งเดียวจบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็กเลยไม่ต้องพักฟื้น ถึงอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วยครับ
แต่สาว ๆ บางคนก็อาจมีโอกาสช่องคลอดกับมาหย่อนยานได้อีกครั้งถึงแม้การรักษาจะเป็นแบบกึ่งถาวร เนื่องจากความเสื่อมสภาพของร่างกายรวมกับกิจวัตรประจำวันในชีวิต และขั้นตอนการดูแลรักษาที่ต้องระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้แผลอักเสบหรือติดเชื้อครับ รวมถึงราคาในการผ่าตัดรีแพร์อาจสูงแล้วแต่การพิจารณาของแพทย์ถึงความเหมาะสมในการประเมินจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ ครับ
รีแพร์ด้วยการใช้เลเซอร์
การทำรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์เป็นวิธีตกแต่งความหย่อนคล้อยของผิวครับ ทำโดยการสัมผัสหรือสอดอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปในช่องคลอด แล้วค่อย ๆ ปล่อยพลังงานเพื่อปรับสภาพของเนื้อเยื่อที่เสื่อมให้เกิดความกระชับขึ้นครับ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องยิงเลเซอร์อยู่มากมายแล้วแต่สถานพยาบาลจะนำมาใช้ในการรักษาครับ
จึงทำให้เป็นวิธีที่มีความนิยมที่ช่วยในหลายเรื่องเช่น เพิ่มความชุ่มชื่นให้จุดซ่อนเร้นลดความตึงแห้งของผนังช่องคลอด,กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้ลดโอกาสปวดท้องระหว่างเป็นประจำเดือน,บรรเทาอาการปัสสาวะเล็ด,ลดการผลิตเซลล์สีเข้มสาเหตุหลักที่ทำให้จุดซ่อนเร้นดูหมองคล้ำ รวมถึงเพิ่มความสุขให้กับสาว ๆ ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้เนื่องจากช่องคลอดที่กระชับจะมีการบีบรัด และผลิตสารหล่อลื่นได้ดีนั่นเองครับ
ถึงอย่างไรการใช้เลเซอร์รีแพร์ก็ยังมีข้อเสียอยู่ไม่น้อย เนื่องจากต้องทำหลายครั้งอาจต้องทำถึง 3 – 4 ครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ สาว ๆ อาจรู้สึกไม่คุ้นชินจากการสอดอุปกรณ์ และมีราคาค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงกว่าทุกหัตถการด้วยนะครับ
ดังนั้นการรีแพร์ทั้งสองประเภทจึงมีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของราคาในการรักษาขั้นตอน และเทคนิคในการรักษา รวมถึงข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกันครับ ถึงอย่างไรสาว ๆ ที่จะเข้ารับการรักษา ก็ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลให้อย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ช่วยตัดสินใจว่าสาว ๆ เหมาะสำหรับศัลยกรรมแบบไหนกันแน่ครับ
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดศัลยกรรมรีแพร์มีอะไรบ้าง
หลังจากผ่านการศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์จุดซ่อนเร้น สิ่งต่อมาที่สาว ๆ ควรพึงระวังคงไม่พ้นเรื่องความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นครับ โดยภาวะแทรกซ้อนนั้นสามารถเกิดได้ทั้งก่อน และหลังผ่าตัดครับ มีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้างที่มีความเสี่ยงต่อสาว ๆ ดูได้ตามหัวข้อดังนี้เลยครับ
ภาวะปวดบริเวณแผลผ่าตัด
อาจมีอาการปวดเบ่งคล้าย ๆ อยากขับถ่ายตลอดเวลา สาเหตุอาจมาจากการเดินขึ้น – ลงบันไดหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันมากจนเกินไป จึงทำให้รู้สึกจุกเสียดหรือปวดบริเวณแผลผ่าตัดนั่นเองครับ
ภาวะปัสสาวะไม่ออก
ปกติหลังผ่าตัดแพทย์จะทำการใส่สายสวนเพื่อให้สาว ๆ ปัสสาวะได้สะดวกครับ แต่ในกรณีที่ปัสสาวะไม่ออกนั้นอาจเกิดจากสาว ๆ มีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดอย่างมาก จึงทำให้เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ส่งผลให้หูรูดบริเวณท่อปัสสาวะคลายตัวเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะไม่ออกหรือลำบากได้นั่นเองครับ
ภาวะเลือดออกมากกว่าปกติ
บริเวณจุดซ่อนเร้นนั้นมีเส้นเลือดค่อนข้างมากครับ แพทย์ที่ทำการจึงควรมีประสบการ และระมัดระวังเป็นพิเศษครับ รวมถึงเทคนิคในการเย็บแผลผ่าตัดอาจมีข้อผิดพลาด ซึ่งสามารถส่งผลให้เลือดออกมามากกว่าปกติหลังจากผ่าตัดครับ
ภาวะแผลแยกแผลอักเสบแผลติดเชื้อ
แบคทีเรียชนิดต่าง ๆ คือสาเหตุหลักสำคัญที่สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากแผลอักเสบ แผลแยก และติดเชื้อได้ง่ายครับ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อน – หลังผ่าตัดครับ แพทย์จึงถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่สาว ๆ อาจไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนในการเตรียมตัวรวมถึงการดูแลรักษา หากมีอาการตามหัวข้อ ผมก็ขอแนะนำให้สาว ๆ กลับไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อทำการรักษา และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอนะครับ
ฉะนั้นภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจมาจากตัวของสาว ๆ เอง และอาจอยู่ที่วิธีการรักษารวมถึงเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดของแพทย์ด้วยครับ ดังนั้นสาว ๆ ควรศึกษาข้อมูลของแพทย์ และความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาลว่าเหมาะที่จะเข้ารับการรักษาหรือไม่ เพราะทุกการผ่าตัดล้วนมีความเสี่ยงจึงควรเช็คให้แน่ใจก่อนทุกครั้งนะครับ
ข้อห้ามงดหลีกเลี่ยงหลังรีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้นมีอะไรบ้าง
ต้องขอบอกตามตรงว่าข้อห้ามต่าง ๆ อาจมีความคล้ายคลึงกับวิธีการดูแลรักษานะครับ แต่ต่างกันตรงเป็นสิ่งที่ห้ามหรือควรหลีกเลี่ยง ซึ่งในทางกลับกันการดูแลคือขั้นตอนการรักษาช่วงพักฟื้นครับ ดังนั้นข้อห้ามจึงมีความสำคัญ และเป็นด่านสุดท้ายที่สาว ๆ ทุกคนควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลผ่าตัดหายได้ไวเป็นปกติ และดูธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง โดยมีข้อห้ามอะไรบ้างที่สำคัญไปดูกันครับ
- งดกิจกรรมทุกชนิดที่ใช้พลังงานหรือที่เคยทำเป็นประจำในช่วง 2 – 3 วัน ควรให้แผลหลังผ่าตัดสมานหรือหายดีก่อนครับ
- งดการทำงาน และห้ามยกของหนักประมาณ 2 – 3 สัปดาห์เนื่องจากแผลอาจยังไม่หายสนิทจึงมีโอกาสทำให้แผลเกิดฉีกขาดได้ระหว่างนั้นครับ
- งดการออกกำลังทุกชนิด เช่นการเล่นโยคะ การเต้นแอโรบิค เพราะแผลสามารถแยกออกจากกันได้ครับจึงควรรออย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายดีแล้วจริง ๆ ครับ
- งดการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักอย่างน้อย 1 – 2 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายสนิทแล้ว หากฝืนมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้แผลฉีกขาด และเลือดออกมากกว่าปกติครับ
- แนะนำให้รับสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้มาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยในการซ่อมแซมร่างกายของตัวเองครับ
- งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากในบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสารหลายชนิดสามารถส่งผลให้แผลหลังผ่าตัดติดเชื้อได้ครับ
- ห้ามให้บริเวณจุดซ่อนเร้นมีความอับชื้น เพื่อให้แผลผ่าตัดแห้ง และหายได้ไวกว่าปกติครับ
- งดอาหารประเภทหมักดองทุกชนิด เนื่องจากจะทำให้แผลหายช้า และมีอาการบวมได้ครับ
หากสาว ๆ หลีกเลี่ยงข้อห้าม และปฏิบัติได้ตามคำแนะนำของแพทย์รับรองได้เลยครับว่าแผลหลังผ่าตัดจะหายได้ไวกว่าปกติรวมถึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือสภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อีกด้วย